ซุปไหนมาวิน! ชาบูตง กับราเมน 4 สไตล์ พร้อมเมนูใหม่ สไปซี่ มิโซะ ราเมน

ชิลไปกิน จัดเต็มไปกับหมี ที่ร้านราเมนญี่ปุ่นต้นตำรับทีวี แชมป์เปี้ยน ชาบูตง (CHABUTON) สาขา สยามพารากอน จัดเต็ม 4 ชาม 4 สไตล์ ซุปไหนจะมา WIN มาดูกัน พร้อมอัพเดทเมนูน้องใหม่ สไปซี่ มิโซะ ราเมน รวมภาพเมนูและราคา อย่าช้าตามหมีมาเลย!!

ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมานาน แต่ก็ยังไม่เคยได้ลองแวะชิมอย่างเป็นทางการสักที สบโอกาสดี๊ดี หมีแพน เลยขอมาแวะจัดหนักจัดเต็มที่ร้านดังขวัญใจเด็กเส้นสไตล์ญี่ปุ่น อย่าง ชาบูตง (CHABUTON) กันซะหน่อย ซึ่งวันนี้หมีขอเลือกสาขาที่สะดวกแก่การเดินทางที่สุด ณ ชาบูตง ชั้น 4 สยามพารากอน (BTS สยาม) แล้วกันนะจ๊ะ

บรรยากาศหน้าร้าน พร้อมโปรโมชั่นเมนูใหม่ สไปซี่ มิโซะ ราเมน ซึ่งมีให้เลือกอิ่มทั้งแบบจานเดียว และแบบ SET สุดคุ้ม รวมน้ำผลไม้ และของกินเล่นอีก 1 อย่าง

บรรยากาศในร้านก็ถูกตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ให้เสียชื่อ ร้านราเมนต้นตำรับจากญี่ปุ่น โดยสุดยอดเชฟราเมน ทีวีแชมป์เปี้ยน ร้านนี้มีต้นกำเนิดจาก มร.ยาสุจิ โมริซึมิ เชฟราเมนชื่อดังที่สามารถพิชิตราวัลชนะเลิศจากรายการ TV Champion และยังเป็นราเมนเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ได้รับเกียรติตีพิมพ์ลงในนิตยสาร ZAGAT LA. และ MICHELIN Guide LA. จนกลายเป็นร้านราเมนยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศทั่วโลก อีกทั้ง มร.ยาสุจิ โมริซึมิ ยังได้รับสมญานามว่า ผู้เป็นเลิศทางด้านการทำราเมน จากงาน 8th Tokyo One Week Ramen Grand Prize อีกด้วย โดย ชาบูตง เป็นร้านราเมนต้นตำรับญี่ปุ่นเจ้าแรกที่เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2553 มีสาขาแรกอยู่ที่สยามสแควร์ ซอย 3

นอกจากมีเครื่องปรุงรสวางไว้รออย่างพร้อมเพรียง ทั้ง น้ำมันงารสเผ็ด ซอสเกี๊ยวซ่า พริกไทย น้ำส้มสายชู พริกป่น แล้ว ยังมีปุ่มกดเรียกพนักงานบริการที่โต๊ะด้วย ไฮโซได้อีก เห็นว่าที่ร้านกำลังทยอยติดตั้งให้ครบทุกสาขาในปีนี้ หมีชอบใจ กดไลค์รัวๆ

เข้าร้านชาบูตง ก็ต้องไม่พลาดเมนูราเมนเส้นนุ้มกับสารพัดน้ำซุป ซึ่งวันนี้หมีจัดเต็ม 4 ชามรวด รวมถึงเมนูใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวหมาดๆ อย่าง สไปซี่ มิโซะ ราเมน ที่มีขายแค่ 2 เดือน (ก.ย. – ต.ค.) ด้วย ชิมให้รู้กันไปเลย ว่าเมนูไหนจะใช่และถูกใจหมีที่สุด

งานนี้หมีขอจัดอันดับเรียงจากเมนูที่รสชาติอ่อนๆ บางเบาที่สุด ไปจนถึงเข้มสุดเลยแล้วกันนะจ๊ะ

อ้อ…ก่อนจะไปจัดอันดับขอบอกไว้ก่อนว่า ราเมนญี่ปุ่น จะหนักไปทางด้านความเค็มพอสมควร ซึ่งที่ร้านบอกว่าได้ปรับลดความเค็มลงมาเยอะมากจากสูตรดั่งเดิม เพราะกลัวคนไทยจะทานกันไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นเจ้าราเมนทั้งหลายก็ยังคงไว้ซึ่งความเค็มให้เราสัมผัสได้อยู่ดี คราวนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนแล้วล่ะว่าจะถูกปากกับรสชาติไหน

มาเลยจ้ะ ชามแรกที่ได้รับการคอนเฟิร์มจากคณะลูกหมีว่ารสชาติไลท์สุด กินง่ายสุด ได้รับคะแนนนิยมมากสุด ได้แก่ ชิโอะ ทงคตสึ ราเมน เส้นราเมนในน้ำซุปกระดูกหมูสูตรดั้งเดิมสไตล์ชาบูยา รสกลมกล่อม นุ่มนวล โรยหน้าด้วยหมูชาชูชิ้นโต เปื่อยนุ่ม หอมกลิ่นซอสหมักและต้นหอมญี่ปุ่น ชามนี้นี่เอง

ชิโอะ ทงคตสึ ราเมน (R 139 บาท / L 199 บาท)

อันดับต่อมา ได้แก่ โยรูตง ราเมน เห็นสีเข้มข้นอย่างนี้ แต่ขอบอกว่ายังไม่ใช่ชามที่เข้มที่สุดนะจ๊ะ

สำหรับชามนี้ มีความพิเศษเพิ่มเติมตรง น้ำซุปกระดูกหมูที่มีความหอมของกระเทียมสับผัดเครื่องเทศ และพริกไทยดำ แม้คณะลูกหมีจะเทใจให้ชามแรก แต่หมีแพนชอบชามนี้มากกว่า แม้จะเข้มและเค็มหนักกว่า แต่พอได้ความหอมของกระเทียมมันทำให้รู้สึกว่าทานได้คล่องคอขึ้น ไม่เลี่ยน หรืออาจจะเพราะหมีชอบกระเทียมเจียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วยก็ได้เลยถูกปากกับรสชาตินี้

โยรูตง ราเมน (R 149 บาท / L 219 บาท)

ในการจัดอันดับขอตัดเมนูใหม่ออกไปก่อน เพราะเป็นคนละสไตล์อย่างชัดเจน แต่ถึงกระนั้น ต่อให้เอามารวมด้วยความเข้มที่สุดก็ตกเป็นของเจ้าชามนี้อยู่ดี กับ ทงคตสึ ราเมน เห็นสีนุ่มนวลสบายตา และดูออริจินัลอย่างนี้ แต่ถ้าต่อมรับความเข้มข้นและความเค็มของเพื่อนๆ ไม่แข็งแรงพอ หมีบอกเลยว่า…อย่าเสี่ยงค่ะ แต่ถ้าต้องการใกล้ชิดรสชาติต้นตำรับแท้ก็ต้องไม่พลาดชามนี้ หมีว่าน่าจะใกล้เคียงกับของญี่ปุ่นที่สุดแล้ว (R 139 บาท / L 199 บาท)

ณ จุดนี้ ขอพักเบรกกันซะหน่อย เติมความสดชื่นด้วย ซิตรัส ฮันนี่ และ แครนเบอร์รี่ แอปเปิ้ล (69 บาท)

เอบิฟราย กุ้งชุบแป้งและเกร็ดขนมปังทอดกรอบๆ กินกับมายองเนส (99 บาท)

Side Dish เด่นๆ ของร้านนี้ก็เห็นจะเป็นเมนูตระกูลเกี๊ยวซ่า เพราะเห็นพัฒนาออกมาเป็นเกี๊ยวซ่ามากมายสารพัดเมนู ไม่ได้มีแค่เกี๊ยวซ่าทอดจิ้มน้ำจิ้มเบสิคเหมือนทั่วไป อย่างจานนี้น่าจะใกล้เคียงตัวออริจินัลที่สุดแล้ว สไปซี่ โอโรชิ เกี๊ยวซ่า เจ้าเกี๊ยวซ่าทอดหน้าตาจิ้มลิ้มที่เสริฟมาพร้อมหัวไชเท้า ปรุงซอสรสเผ็ด (89 บาท / 8 ชิ้น)

ก็แปลกไปอีกแบบจ้า มีความเผ็ดฉุนขึ้นจมูกเล็กน้อย

ส่วนนี้ก็เกี๊ยวซ่าอีกเหมือนกัน ที่ร้านครีเอทออกมาเป็นเมนู ชีส มาโย เกี๊ยวซ่า เกี๊ยวซ่าทอดกรอบ ราดซอสมาโย และชีส ตกแต่งด้วยสาหร่ายด้านบน (89 บาท / 8 ชิ้น)

และตอนนี้ก็มาถึงเมนูไฮไลท์แล้วล่ะจ้า เมนูใหม่แกะกล่องที่เพิ่งจำหน่ายเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง สไปซี่ มิโซะ ราเมน ราเมนในซุปกระดูกหมูผสมกับมิโซะสูตรพิเศษ อุคิโคจิ มิโซะ ที่ผสานรสชาติต้นตำรับกับความเผ็ดร้อนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โรยหน้าด้วยเบคอนเกรดคุณภาพชิ้นโต และกะหล่ำปลีคัดพิเศษ มีขายถึง 30 ต.ค.นี้เท่านั้นนะจ๊ะ

สไปซี่ มิโซะ ราเมน (S 149 บาท / R 199 บาท)

อร่อยใช้ได้อยู่ มีรสเผ็ด เส้นนุ่ม รสชาติน้ำซุปจะออกแนวคล้ายๆ แกงกิมจิ ถ้าให้เลือกชามที่ 2 รองจากกระเทียม หมัก็เลือกชามนี้แหละค่ะ

คาวแล้วก็ต้องต่อด้วยหวาน สำหรับของหวานที่นี่มีอยู่ 3 เมนู หมีก็เหมาสิคะจะรออะไร เริ่มกันที่อันนี้เลย อัลมอนด์ เจลลี่ แปลกตาดีค่ะ ถ้าเทียบกับเมนูขนมหวานของร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือนี้ (CRG) ถ้วยนี้เป็นเจลลี่กลิ่นอัลมอนด์ แต่ถ้าเรียกแบบไทยตามสไตล์หมี ก็แนวประมาณเต้าฮวยรสอัลมอนด์หวานอ่อนๆ นั่นแหละจ้ะ เสริฟมาพร้อมมะนาว ก่อนทานก็ให้กดๆ มะนาวลงไป จะได้ความเปรี้ยวของมะนาวมาตัดหวานเข้ากัน (65 บาท)

ไอศกรีมชาเขียวราดถั่วแดง (85 บาท)

มีน้ำเชื่อมมาให้เช่นเคย อ้อ เมนูนี้นอกจากถั่วแดงกวนแล้ว เค้าก็มีโมจิมาให้ด้วย ชิ้นโตถูกใจหมีได้อีก

ส่งท้ายก่อนกลับขอขยับมาไฮโซซะหน่อย กับ ไอศกรีมชาเขียวพรีเมี่ยมสไตล์ญี่ปุ่น จัดเต็มด้วยหมู่มวลเบอร์รี่ ทั้งสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ส้ม พร้อมด้วยถั่วแดงกวน และโมจิ สีสันตัดกันอย่างสวยงาม (159 บาท)