ท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนสะละลุงถัน ป่าบอน พัทลุง

หมีออนทัวร์ พาชาวคณะยกพลลงใต้ ไปเที่ยวเมืองพัทลุง ประเดิมความชิลที่ สวนสะละลุงถัน ชิมสะละผลสุกสดลดความแก่ ชมสาธิตวิธีผสมเกสร และอร่อยกับอาหารแบบพื้นบ้านแท้ๆ

สวัสดีค่ะ หมีออนทัวร์ หลังหมักดองไว้เป็นอาทิตย์ ตอนนี้ก็ได้เวลามาลงรีวิวตามคำสัญญาแล้ว โดยหมีจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม สวนสะละลุงถัน ที่ ม.6 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง กันค่ะ

สวนสะละลุงถันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในจังหวัดพัทลุง เปิดให้บริการมานานถึง 16 ปีแล้ว โดยสวนสะละแห่งนี้บุกเบิกโดย ลุงถัน ดำเรือง ผู้พลิกแนวคิดจากการทำสวนยางและสวนไม้ผลให้กลายมาเป็นสวนสะละ ต้อนรับนักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา และคณะทัวร์เพื่อการเรียนรู้ ที่สนใจอยากเข้าชมสวน ดูวิธีผสมพันธุ์ และชิมสะละ (สละ) สดๆ จากต้นในสวนของลุงถัน ซึ่งปัจจุบันได้คลื่นลูกที่สอง คุณวิชัย ดำเรือง ลูกชายของลุงถันดีกรีหนุ่มวิศวะฯ มาเป็นผู้บริหารสวนแห่งนี้แทนคุณพ่อ

จุดเด่นของสวนสะละลุงถัน คือ สะอาด ร่มรื่น ให้ผลดกตลอดทั้งปี และยังมีกิจกรรมที่คุณลุงแกการันตีว่าหนึ่งเดียวในโลก คือ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยมได้ร่วมแข่งขันรับประทานสะละ ตามสโลแกนที่ว่า ปอกเป็น กินไว ในล่อน โดยคิดค่าเข้าชมสวนคนละ 50 บาท สามารถเดินชมสวน ชิมสะละสดๆ แบบไม่อั้น พร้อมชมสาธิตวิธีผสมเกสร อีกทั้งยังสามารถทดลองผสมเองได้ด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะใช้เวลาผสมราวๆ 9 เดือนกว่าจะออกผล เมื่อสะละที่ผสมติดผลและสุกพร้อมเก็บรับประทานแล้ว ทางสวนจะแจ้งให้คนที่ผสมทราบ และหากมีความประสงค์จะเก็บกลับไปเป็นที่ระลึกก็สามารถทำได้เช่นกัน

เกสรที่ถูกผสมแล้วจะติดวัน เดือน ปี ที่ผสมไว้

ลุงถัน ดำเรือง เจ้าของสวนสะละลุงถัน ออกมาให้การต้อนรับด้วยตัวเอง

มีคำคมให้อ่านเพลินๆ ตลอดทางเข้าไปในสวนของลุง บาดๆ คมๆ ทั้งนั้น

สะละลูกดกตลอดทางจริงๆ หมีขอยืนยันด้วยภาพ

สรรพคุณของสะละผลสุกสด ปลอดสารพิษ
ช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน ความดัน และมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความแก่ โดยได้รับการรับรองจากศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรเพื่อการส่งออก คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ด้านในมีจุดจำหน่ายของฝาก เป็นสะละลอยแก้ว และสะละปลอดสารพิษจากสวนแห่งนี้

วันนี้พิเศษหน่อย ตรงที่มีคณะแม่บ้านเปิดครัวอาหารพื้นเมืองแบบพัทลุงสไตล์ ประเดิมการมาเยือนจังหวัดพัทลุงครั้งแรก ของหมีและชาวคณะลูกหมีให้ได้ลิ้มลองความแซ่บแบบปั๊ดตาลุงแต้ๆ แซ่บสะใจกันไป

สำหรับในส่วนของอาหารรับรอง คณะทัวร์ไหนสนใจก็สามารถแจ้งมาได้ค่ะ ทางสวนจะจัดเตรียมอาหารไว้ให้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 100 บาท ต่อ คน มีน้ำสะละหวานๆ ไว้บริการด้วย

มื้อนี้มีอะไร เริ่มที่อย่างแรก เป็น แกงกะทิไก่ใส่หยวกกล้วย ฟินๆ กันไป

ปลาทูแดดเดียว ตัวช่วยหลักสำหรับคนไม่กินเผ็ด กินกับน้ำพริกที่นี่ก็เด็ดมาก เสียดายหมีถ่ายมาไม่ทัน พอนึกได้น้ำพริกก็เกลี้ยงซะแล้ว ขายดีมากๆๆๆ

อันนี้เป็นแนวยำเห็ด หรือลาบเห็ดนี่แหละ ก็อร่อยไปอีกแบบ

ไม่คิดเลยว่าหมีจะฟินกับผักได้ ผักกูดลวกน้ำกะทิ อร่อยมัน กลมกล่อม เมนูกู้ชาติห้ามพลาดในหลายๆ มื้อ

กินคาวเสร็จก็มีสะละลูกโตๆ ไว้บริการพร้อม ลูกใหญ่ลูกเล็กก็เลือกได้ตามสะดวก บริการตัวเองแบบไม่อั้นเจ้าค่ะ

ชาวคณะลูกหมีแนะนำว่าให้เลือกลูกที่ดูดำๆ หน่อย รสชาติจะหวาน ละมุ๊น…ละมุน

แรกๆ ก็แกะกันเอาอร่อย แต่สักพักก็เริ่มแข่งกันแกะเอาสวยแล้วล่ะค่ะ แต่ไม่เป็นไร เอาตามสะดวก แกะสวยก็ได้ ไม่สวยก็ได้ หมีรอกินอย่างเดียว เสียสละสุดๆ อิอิ

อิ่มหนำสำราญกันเสร็จแล้ว คุณลุงถัน ก็ขอพาชาวคณะมาเดินชมสวนพร้อมสาธิตวิธีผสมเกสรให้ดูกันสดๆ

สิ่งสำคัญที่ต้องมีก็คือเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมีย นั่นเอง (ซ้ายตัวเมีย ขวาตัวผู้)

แต่ตัวเมียภาพบนยังคงไม่พร้อมให้ผสม เลยต้องออกตามหา สาวแรกแย้มที่พร้อมผลิดอกออกผลรายใหม่ และแล้วก็ได้เจอกัน โตเต็มวัย งดงามตามท้องเรื่อง

เมื่อเจอคู่ที่ลงตัวแล้ว จากนั้นก็ถึงเวลาผสมสิคะ นวดๆ คลึงๆ เคล้ากันไปเคลียกันมา ลุงบอกว่ารับรองผลมาแน่ๆ แต่ถ้าใครอยากพิสูจน์ว่าคู่นี้จะลูกดกขนาดไหน อีก 9 เดือนเจอกันค่ะ แต่หมีฝากลุงเก็บให้เลยนะคะ หมีคงมิสะดวก 555