ลัดเลาะบนถนนจ้อกแจ้กจอแจย่านพหลโยธิน ที่ตรงกลางก็สร้างรถไฟฟ้าตอกเสากันตุ้บตั้บ หันหาฝั่งก็เต็มไปด้วยตึกร้านบ้านเรือน ผู้คนห้อมล้อมหนาแน่น ใครเลยจะไปคิดว่าท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายย่านชุมชนในซอยพหลโยธิน 34 แห่งนี้ จะมีร้านอาหารบรรยากาศดี ที่แค่ก้าวเท้าเข้าไปก็เหมือนข้ามมาอยู่อีกโลกซุกซ่อนอยู่ ความวิริศสมาหราบังเกิดให้ซึมซับเต็มสองตา จนอยากจะขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีก เพราะยังไม่อยากเชื่อว่า ณ ที่ตรงนี้ จะได้เจอร้านอาหารโอโซนกลางกรุง สดชื่นด้วยธารน้ำใส ระเบียงไม้ร่มรื่น แทรกตัวอยู่อย่างสงบภายใต้ชื่อ ร้านอาหารขวัญจิตร (KWANCHITR)
ที่นั่งมากมายทั้งโซนอินดอร์เย็นฉ่ำ แฝงความหรูและคลาสสิคไปด้วยในตัว พร้อมโซนเอ้าท์ดอร์ให้ซึมซับบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ ไม่มีมลพิษกลิ่นควันมารบกวน รองรับลูกค้าได้ราวๆ 150 ที่นั่ง
ระเบียงแมกไม้สุดชิล เหมือนนั่งฟินอยู่บนเรือนแพ หรือบ้านคุณหนูไฮโซที่มีธารน้ำใสส่วนตัว และที่นั่งโซนนี้ ยิ่งฟ้ามืดลง แสงไฟสว่างไสวขึ้น ก็จะยิ่งได้ความโรแมนติกสุดๆ ไปเลย
เข้ามาในร้านก็เจอผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งยิ้มหวานเข้ามาต้อนรับ เห็นขาวๆ หน้าฝรั่ง มองเผินๆ ตอนแรก แหม่!! นึกว่าพี่เกริก ชิลเลอร์ เลยรีบพุ่งตัวเข้าไปขอถ่ายรูป อุ๊ต๊ะ!! นี่เจ้าของร้านนะคะไม่ใช่ธรรมดา
ยิ้มหวานให้ถ่ายรูปพร้อมมีซัมธิง(เรื่องราว)บอกเล่าซะขนาดนี้ เลยขออาศัยวิญญาณหมีสังกัดชะนีไทยยิ้มตอบอ้อล้อ เอ้ย!! นั่งคุยกับพี่เค้าซะหน่อย และก็ได้ความมาว่าที่หน้าฝรั่งเพราะพี่เค้าเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศสนะจ๊ะ เอ๊ะเดี๋ยว! เหมือนเราจะมาผิดทางยังไงไม่รู้
เอ้า เอาใหม่นะ นับ 5 4 3 2 1 เริ่ม….
คุณหนึ่ง – ยอดขวัญ ลุลิตานนท์ เล่าที่มาที่ไปของร้านให้ฟังว่า แรกเริ่มเดิมทีกว่า 60 ปีมาแล้ว ที่นี่เคยเป็นเพียงร้านขายไส้กรอกเล็กๆ ที่คุณปู่ คุณย่า เปิดให้คุณป้า(เจ้าของดั่งเดิม) ซึ่งไปได้สูตรไส้กรอกเยอรมันแสนอร่อยมา พอทำขายคนก็ติดใจ บอกต่อปากต่อปากและได้รับความนิยมยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน
จนกระทั่งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คุณหนึ่งกลับจากฝรั่งเศสมาใช้ชีวิตเป็นชาวกรุงเทพเต็มตัวอีกครั้ง และเวลาขับรถกลับบ้านก็จะผ่านร้านนี้ทุกวัน ขณะนั้นร้านไม่มีคนดูแล เพราะคุณป้าก็อายุมากแล้ว ตนจึงอยากจะสานต่อกิจการครอบครัวให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พร้อมทั้งรักษาความอร่อยให้ลูกค้าได้มีความสุขกับไส้กรอกต้นตำรับที่เคยคุ้นติดใจเหล่านี้ต่อไป
พักดื่มน้ำเย็นฉ่ำและมานั่งฟังกันต่อ…
ณ ตอนนั้นคุณหนึ่งคิดเพียงว่าอยากทำร้านอาหาร ร้านกาแฟเล็กๆ ให้คนมานั่งชิลได้ โดยใช้แม่ครัวในบ้าน ขายแค่ 6-7 เมนูสลับหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน เหมือนทำทานกันเองในบ้าน และด้วยความที่ชอบดอกไม้เอามากๆ ภายในร้านจึงประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่คุณหนึ่ง และทุกคนในบ้าน(ร้าน) ออกไปซื้อและจัดตกแต่งกันเอง อาจจะด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีกระแสตอบรับที่ดีอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงค่อยๆ ขยับขยายต่อเดิมร้าน เริ่มจากเรือนกระจก มาจนถึงระเบียงริมน้ำ ในอาณาเขตพื้นที่กว่า 3 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยของครอบครัวลุลิตานนท์มาตั้งแต่ดั้งเดิม (แต่ตอนนี้ไม่ได้จัดดอกไม้แล้ว) ส่วนธารน้ำใสไหลเย็นที่เห็นกันอยู่นั้นก็ไม่ใช่คลองหลวงอะไรที่ไหน แต่นี่คือบ่อน้ำในบ้านที่มีมาตั้งนานแล้วเท่านั้นเอ๊ง หมีเอามือทาบอก อุทานขุ่นพระ!! ไม่ทราบว่ารับคนสวนเพิ่มอีกสักคนมั้ยคะ ขุดดิน เด็ดหญ้า ให้อาหารปลาก็ได้เอ้า
หิวกันแล้วใช่มั้ยล่ะเธอ เห็นนะว่าแอบเลียปากแผลบๆ ถ้างั้นดิชั้นก็ไม่ใจร้าย วินาทีต่อจากนี้ไป ขอเชิญทุกท่านพบกับ สุดยอดเมนู Recommended จากร้านอาหารขวัญจิตร กันเลย
เมนูที่ 1 มาถึงนี่แล้ว แน่นอนว่าพลาดไม่ได้กับเมนูตำนานร้านขวัญจิตรจานนี้ ไส้กรอกขวัญจิตร ซึ่งประกอบไปด้วย ไส้กรอกเวียนนาต้นตำรับ เวียนนาพริกขี้หนู และเวียนนาพริกไทยดำ พร้อมด้วยโบโลน่า มันบด และกระหล่ำปลีดองผัดเนย (380 บาท)
ป้อนนะคะ
เมนูที่ 2 มีชื่อว่า พล่าปลาแซลม่อน (280 บาท)
อร่อยแบบไทย ได้กลิ่นไออินเตอร์ แซ่บโดนใจไม่เป็นสองรองใครแน่นอน
เห็นสีส้มแล้วใจละลาย มันช่างดีต่อใจเหลือเกิน
เมนูที่ 3 ห้ามพลาดที่สุดของที่สุด ขาหมูทรงเครื่อง (550 บาท)
เพื่อให้สมกับความเป็นขาหมี เอ้ย!! ขาหมู หมีขอจัดเต็มน้ำลายสอแบบ Step-by-Step ไปเล๊ย หลายสเต็ปด้วยล่ะ เพราะกินไปหลายคำ 555
ไม่ต้องจิ้มก็อร่อย ฉ่ำกับซอสที่ใส่มาในจาน
เนื้อนุ่ม หนังกรอบ จิ้มน้ำจิ้มนิดหน่อย ก็อร่อยลงตัว
เมนูที่ 4 มีความละมุนละไมสดใสขอสอง มันบดอบชีสโรยเบคอน (220 บาท)
มันบดนิ่มๆ กับชีสยืดๆ เคล้าเบคอนกรอบๆ โอ้ย!! บวมคูณสอง สาม สี่ ห้า ก็ยอม!!
เมนูที่ 5 เป็ดผัดพริกไทยอ่อนโหระพา เห็นเป็นเป็ดและหน้าตาไทยๆ ไม่แปลกตาอะไรแบบนี้ อย่าเผลอไปแตะเชียวค่ะ เตือนเอาไว้เลย เพราะเมื่อลองแตะรับรสทีเดียว หมดเกลี้ยงในพริบตา รสชาติดีเกินคาด เห็นตอนแรกคิดว่าคงจะเหนียวๆ งั้นๆ แหละ พอได้ชิมหมีรู้สึกผิดอย่างแรงที่บังอาจตัดสินไปก่อนอย่างนั้น อีกหนึ่งความฟินที่ไม่ควรพลาดเช่นกันค่ะจานนี้ (250 บาท)
แถมด้วยจานเนื้อทานเล่น โรตีแกงเนื้อพริกขี้หนู (150 บาท)
สปาเก็ตตี้เบคอนผัดน้ำมันมะกอก (330 บาท)
*นอกเรื่องนิดนึงว่าคาโบนาร่าที่นี่ก็อร่อย หมดเร็วจนถ่ายไม่ทันทีเดียวเชียวค่ะ 555 ใครไปก็อย่าลืมลองสั่งมาทานนะคะ*
และส่วนที่เห็นอยู่นี้ มันคือปลาหมึกเซอร์ไวเวอร์ชิ้นสุดท้ายแฟนหล่อที่เล็ดลอดมาถึงเรา ฮ่าๆ อันนี้ก็อร่อยๆ คราวหน้าจะสั่งกินคนเดียวทั้งจานเลยค่ะ แก้มือใหม่
ในส่วนของตอนนี้นั้น กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ ไม่รู้ใครนิยามไว้ แต่หมีขอขอบพระคุณจากใจ เพราะเป็นเรื่องราวดีๆ ที่หมี(ใช้อ้าง)ยึดเป็นข้อปฏิบัติในการปิดท้ายมื้ออาหารด้วยของหวานอย่างเคร่งครัดเสมอมา อิอิ
สารพัดเมนูไอศกรีมหลากสี หลายรสชาติ ทั้งไอศกรีมนม และเชอร์เบท พาเหรดกันมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะละลานตา
จานแล้วจานเล่า
ทั้งช็อกโกแลตชิพ รัมเรซิ่น ดาร์กช็อกโกแลต เสาวรส มะม่วง
ส้ม วานิลา กาแฟ และลิ้นจี้ (หมีชอบวานิลาที่สุด ดูสิคะ เค้าใช้ฝักวานิลาด้วยล่ะ)
เอ้า!! ชน ไอศกรีมปาร์ตี้ส่งท้ายซะหน่อย
นอกจากอาหารรสเลิศ บรรยากาศดี๊ดีแล้ว ที่ร้านยังมีการจัด BOX SET และบริการเดลิเวอรี่ส่งตรงถึงบ้านด้วยนะจ๊ะ โดยคิดค่าส่งตามระยะทาง เริ่มต้นที่ 40 – 400 บาท ส่งฟรี(ในกรุงเทพฯ) เมื่อสั่งครบ 2,000 บาทขึ้นไป
เวลาเปิด – ปิด : 08.30 – 22.00 น. (เปิดทุกวัน)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-579-1840 , 097-042-3149 , 097-042-1419
Line : @kwanchitr , kwanchitr001 , kwanchitr002
Facebook : kwanchitr restaurant
Instagram : kwanchitr restaurant
Website : www.kwanchitr.info
You must be logged in to post a comment.